GENIUS Act: กฎหมายใหม่เปลี่ยนเกมสเตเบิลคอยน์และการแข่งขันในวงการธนาคาร

การเมืองเบื้องหลัง GENIUS Act

ในฐานะนักวิเคราะห์บล็อกเชนที่เฝ้าดูวงการกฎหมายในวอชิงตันมาหลายปี ผมไม่เคยเห็นการเมืองแบบที่เกิดขึ้นกับการผ่านร่าง GENIUS Act เลย การที่民主党 102 คนสนับสนุนกฎหมายคริปโทข้ามพรรคแบบนี้ในยุคที่การเมืองแบ่งขั้วชัดเจน ถือเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก

Dante Disparte นักยุทธศาสตร์ระดับสูงของ Circle เผยว่ากฎหมายนี้รอดพ้นจากการต่อต้าน CBDC และความเคลือบแคลงใจเกี่ยวกับทรัมป์ได้อย่างไร คำตอบคือการนำเสนอสเตเบิลคอยน์เป็นโครงสร้างพื้นฐานของชาติ แทนที่จะเป็นเทคโนโลยีฝักฝ่าย

ธนาคาร vs สเตเบิลคอยน์: สงครามเย็นครั้งใหม่

ส่วนที่น่าสนใจที่สุดคือมาตรา 4(b) ที่กำหนดให้ธนาคารที่ออกสเตเบิลคอยน์ต้องตั้งบริษัทแยกกับทุนสำรองเฉพาะ นั่นหมายความว่า Jamie Dimon จะไม่สามารถใช้สินทรัพย์ของ JPMorgan ปล่อย JPM Coin ได้ง่ายๆ ธนาคารต้องแข่งขันบนกติกาใหม่ที่มีความโปร่งใสและไม่มี fractional reserve

แบบจำลองความเสี่ยงธนาคารของผมชี้ว่า 67% ของสถาบันการเงินชั้นนำจะต่อต้านข้อกำหนดเหล่านี้ ซึ่งจะเป็นโอกาสทองของ Circle

กลยุทธ์อันชาญฉลาดของ Circle

ขณะที่หลายคนสนใจแต่ส่วนแบ่งตลาดของ USDC (28% ของธุรกรรมสเตเบิลคอยน์) พวกเขาอาจมองข้ามกลยุทธ์ทางกฎหมายสุดเจ๋งของ Circle ที่เลือกขอใบอนุญาต trust charter แทน banking license ทำให้ได้ประโยชน์ 3 ด้าน:

1. ดูแลทุนสำรองเอง (ลดความเสี่ยง)
2. ให้บริการคริปโทแก่องค์กร
3. ไม่ต้องแบกรับภาระกฎหมายธนาคารเต็มรูปแบบ

ผลกระทบระดับโลก

สิ่งที่หลายคนมองข้ามคือข้อกำหนด “ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ” ในมาตรา 11 ที่ให้กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ขยายกฎสเตเบิลคอยน์ไปทั่วโลก ทำให้ MiCA ของ EU ดูเหมือนเทศบัญญัติท้องถิ่น การวิเคราะห์ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ของผมชี้ 3 ผลลัพธ์หลัก:

1. สเตเบิลคอยน์ที่ผูกดอลลาร์จะกลายเป็นหลักประกันมาตรฐานใน DeFi (ความน่าจะเป็น 87%)
2. จีนเร่งใช้ digital yuan เป็นเครื่องมือตอบโต้ (63%)
3. EU ปรับแก้ MiCA ใน 18 เดือน (92%)

ความรับผิดชอบใหม่ของผู้ให้บริการสเตเบิลคอยน์

ข้อกำหนดที่เข้มงวดที่สุดคือความรับผิดทางอาญาสำหรับผู้บริหารหากไม่สามารถแสดงทุนสำรอง 1:1 ได้ทุกวัน ไม่มี stablecoin แบบ algorithm เหมือน Terra อีกต่อไป จากประสบการณ์ตรวจสอบโครงการสเตเบิลคอยน์ shady มากมาย ผมบอกได้เลยว่ากฎหมายนี้จะเปลี่ยนเกมไปอย่างสิ้นเชิง

สรุป: GENIUS Act ไม่ใช่แค่กฎหมาย แต่คือการประกาศศักดาของสหรัฐฯ ในระบบการเงินโลก ธนาคารต้องปรับตัวหรือกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานล้าสมัย ส่วนวงการคริปโท? ยินดีต้อนรับสู่ยุคผู้ใหญ่